[FIC - WINNER : MINYOON] It's All About Christmas - [FIC - WINNER : MINYOON] It's All About Christmas นิยาย [FIC - WINNER : MINYOON] It's All About Christmas : Dek-D.com - Writer

    [FIC - WINNER : MINYOON] It's All About Christmas

    ผู้เข้าชมรวม

    490

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    490

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 มี.ค. 58 / 11:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      [OS] It's All About Christmas

      Paring : MinYoon, TempG, HoonNam ft. JinWoo

      Rating : PG 13

      A/N : Nothing but Merry Christmas everyone.







      ช่วงเทศกาลคริสมาสต์เป็นช่วงเขาอยากให้ผ่านไปเร็วๆ


      ซึง ยูนไม่เคยชอบวันคริสมาสต์มาตั้งแต่ตอนอยู่ปูซานจนกระทั่งย้ายเข้ามาเรียนต่อ และหางานพิเศษทำไปด้วยก็เลยได้โอกาสหาข้ออ้าสงไม่กลับบ้าน เมื่อสองสามวันก่อนหน้านี้แม่โทรมาถามว่าวันนี้ไปจะไปโบสถ์หรือเปล่า แต่พอเขาตอบว่าคงไม่ได้ไปเพราะงานที่ร้านยุ่ง แม่ก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเดิม และกำชับว่าอย่าลืมกินข้าวเยอะๆ


      แต่เขารู้ว่าแม่เสียใจที่ลูกชายไม่ได้กลับบ้าน


      ซึง ยูนมักจะปลอบตัวเองว่าเอาไว้ปีหน้าค่อยกลับไปฉลองกับแม่ที่บ้าน แต่เขาก็บอกตัวเองแบบนี้มา 2 ปีและยังคงไม่ได้กลับบ้าน เขาเคยบอกให้แม่ย้ายมาอยู่โซลด้วยกัน แต่แม่กลับหัวเราะและทำเฉยๆ เสีย เลยกลายเป็นว่าต้องอยู่ห่างกันตลอดแบบนี้

      “ซึงยูน เดี๋ยวเอาคัพเค้กไปจัดในตู้หน่อยนะ”

      เสียงทุ้มๆ ของเจ้าของร้านทำให้ซึงยูนเลิกเหม่อและหันไปยิ้มแป้นให้ชเวซึงฮยอนก่อนจะยกคัพเค้กสีหวานถาดใหญ่ไปจัดเรียงในตู้วางเค้ก

      “วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ”
      “ไม่เป็นไรฮะ” ซึงยูนตอบหนุ่มเจ้าของร้านตอนที่ยังเรียงคัพเค้กเข้าตู้ “พี่น่าจะเหนื่อยกว่านะฮะ เพราะว่าทำขนมเองตั้งแต่เช้าแล้ว”

      เด็ก หนุ่มพูดอย่างร่าเริงแล้วหันไปมองเจ้าของร้านที่นั่งจิบกาแฟอุ่นๆ อยู่ตรงหน้าเครื่องคิดเงิน ร้านขนมเล็กๆ ที่มีแค่เจ้าของร้านกับเด็กผู้ช่วยอย่างเขายังไม่วุ่นวายนักในช่วงบ่ายๆ แต่พอเย็นกว่านี้บรรดาลูกค้าก็คงจะเริ่มทยอยเข้ามาซื้อหาของหวานหน้าตาน่า รักพวกนี้


      ซึงยูนยังแปลกใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่าผู้ชายหน้าคมๆ ไว้ผมยาวประบ่าคนนี้ทำไมถึงทำขนมเก่ง


      เสียงกระดิ่ง ที่แขวนไว้หน้าร้านทำให้ซึงยูนเงยหน้าขึ้นไปมอง ลูกค้าคู่แรกของวันเป็นสาวน้อยมัธยมปลายที่ยืนเลือกคัพเค้กไปพลางเหล่ตามอง พี่ซึงฮยอนที่หยิบแว่นสายตามาสวม พอเขาจัดคัพเค้กใส่กล่องให้เรียบร้อยสาวน้อยสองคนก็ไปยืนเอียงอายรอพี่ซึง ฮยอนคิดเงิน


      ซึงยูนแอบขำทุกครั้งเวลาที่เห็นลูกค้าสาวๆ หน้าแดงตอนที่พี่ซึงฮยอนยิ้มให้


      ตาเรียวของเด็กหนุ่มเหลือบมองลูกค้าที่เดินเข้ามาก่อนที่ลูกค้าคู่แรกจะออก ไป ผมสีชมพูเหมือนขนมสายไหมกับเสื้อแจ็คแก็ตหนังที่ตอกหมุดไว้เต็มเหมือนรอ คเกอร์ทำให้ซึงยูนส่งยิ้มกว้างไปให้ ลูกค้าคนล่าสุดส่งยิ้มสดใสกลับมาแต่กลับทำหน้างอใส่พี่ซึงฮยอนที่ยืนอยู่ หลังเคาน์เตอร์

      “ขนมของฉันล่ะ”
      “นี่ไง”

      ชเวซึงฮยอนยื่นกล่องกระดาษขนาดใหญ่ส่งไปให้ ดูเผินๆ ก็เหมือนกล่องใส่ขนมของที่ร้าน แต่กล่องนี้กลับมีโบผ้าสีน้ำเงินเข้มมัดตกแต่งและแขวนป้ายชื่อเจ้าของกล่อง ขนมที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษอ่อนช้อย


      ... Kwon Ji Yong ...


      “ขอบใจนะ”

      พี่ซึงฮยอนตอบรับคำพูดของพี่จียงด้วยการพยักหน้ารับเฉยๆ เลยดูเหมือนพี่จียงจะหน้างอมากกว่าเดิม มือเรียวๆ ขาวๆ ที่สวมแหวนเงินกับสร้อยข้อมือไว้ยื่นถุงกระดาษใบย่อมข้ามเคาน์เตอร์มาให้ซึง ยูน

      “Merry Christmas นะซึงยูน” ควอนจียงว่าพลางยิ้มสดใส “มีความสุขมากๆ นะ อ้อ! อย่าลืมโทรหาแม่ด้วยนะ”
      “ขอบคุณมากนะฮะพี่จียง ที่จริงไม่ต้องให้อะไรก็ได้นะฮะ”
      “ได้ยังไง นี่คริสมาสต์นะ” จียงเถียงแล้วตัดบท “ถ้านายทำหน้าเกรงใจขนาดนี้ก็ถือว่าพี่ให้ของขวัญปีใหม่รวบเป็นชิ้นเดียวเลย แล้วกัน โอเคไหม”
      “ฮะ”
      “แล้วของฉันล่ะ”

      พี่ซึงฮยอนที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้นมาเบาๆ แต่พี่จียงกลับยักคิ้วแล้วทำท่าเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ซึงยูนแอบมองแล้วก็ไม่เห็นของขวัญชิ้นอื่นอีก

      “ของนายอยู่ที่บ้าน ฉันอบไก่ใส่ตู้เย็นไว้ให้ นายกลับไปใส่เวฟอุ่นเอาแล้วกัน”
      “นี่นายคงไม่ได้ให้ของขวัญคริสมาสต์ฉันแค่ไก่อบอย่างเดียวใช่ไหม”
      “ใช้คำว่าแค่ไก่อบได้ยังไง นี่ไก่อบฝีมือฉันเชียวนะชเวซึงฮยอน” จียงพูดแล้วทำหน้าไม่เดือดร้อน “ไปล่ะ เจอกันดึกๆ”

      ซึงยูนรู้ว่าคำว่า ‘เจอกันดึกๆ’ ของพี่จียงตั้งใจจะส่งให้เจ้าของร้านหนุ่มที่ยืนหัวเราะเบาๆ อยู่มากกว่าที่จะบอกเขา ถึงจะไม่ค่อยเห็นพี่ซึงฮยอนกับพี่จียงหวานใส่กัน แต่ซึงยูนก็รู้ว่าทั้งสองคนคบกันในสถานะแบบไหน ช่วงเวลาแบบนี้ใครๆ ก็อยู่กับครอบครัวกันหมด


      ยกเว้นเขา


      “คิดอะไรอยู่เหรอ”
      “เปล่าฮะ”

      ซึง ยูนรีบตอบอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนพี่ซึงฮยอนจะไม่เชื่อเพราะเจ้าของร้านหนุ่มเลื่อนแก้วโกโก้ร้อนๆ ส่งมาให้ ซึงยูนรับมาจิบและปล่อยให้พี่ซึงฮยอนเป็นคนชวนคุย

      “จะกลับบ้านก็ได้นะ พี่อยู่ร้านคนเดียวได้”
      “ไม่เป็นไรฮะ” ซึงยูนพูดแล้วก้มมองมือตัวเอง “ผมไม่ค่อยอยากกลับบ้านตอนคริสมาสต์เท่าไหร่”
      “ทำไมละ”

      ชเวซึงฮยอนกอดอกแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลายพลางจิบกาแฟ ทำให้ซึงยูนตัดสินใจเล่าเรื่องตอนเด็กที่อยู่ในใจออกมาง่ายๆ

      “ตอนที่ผมเด็กๆ น่ะฮะ แม่ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่ ก็เลยไม่เคยได้ฉลองเทศกาลแบบนี้”
      “อย่างนั้นเหรอ” ซึงฮยอนถามและคนฟังพยักหน้า
      “ที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกฮะ แค่รู้สึกไม่ดี ถ้าถามว่าจำได้ไหมว่าทำไมก็จำไม่ได้แล้วฮะ”
      “ไม่แปลกหรอก คนเราเวลาเจ็บปวดกับเรื่องในอดีตก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ”

      ชเวซึงฮยอนพูดเบาๆ ก่อนจะมองออกไปนอกร้าน วันนี้อากาศข้างนอกหนาวจัดจะหิมะตกตลอดเวลา ถนนด้านนอกร้านมีคู่รักหลายคู่เดินควงแขนกันโดยมีสายลมหนาวพัดผ่าน

      “เรามักจะลืมรายละเอียดชองเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดไปแล้ว จำได้แค่ว่ารู้สึกเจ็บปวดกับมันแค่ไหน”

      ซึงฮยอนไม่ทันพูดอะไรต่อเพราะลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ซึงยูนโค้งและทักทายลูกค้าวัยรุ่นกลุ่มที่เดินเข้ามา เด็กหนุ่มไว้ผมแสกกลางมายืนจดๆ จ้องๆ อยู่ตรงหน้าตู้คัพเค้ก ก่อนจะหันไปถามคนตาโตๆ ที่มาด้วยกัน

      “เอาอันไหนดี พี่จินอู”
      “อันไหนก็ได้” คนชื่อจินอูเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มตาใสให้ซึงยูน “มีแบบไหนแนะนำไหมครับ”
      “อา ... ถ้าชอบตัวเนื้อเค้กหวานๆ หน่อยก็เป็นเนื้อเค้กแบบบราวนี่ หรือวนิลานะฮะ แต่ถ้าชอบแบบหวานๆ เปรี้ยวๆ หน่อยก็เป็นเนื้อเค้กแบบเรดเวลเว็ทฮะ เนื้อครีมส่วนใหญ่จะหวานๆ แตถ้าเป็นสีๆ ของเนื้อเค้กวนิลาจะเป็นครีมหวานๆ เปรี้ยวๆ ฮะ”
      “อันไหนดีล่ะเนี่ย แทฮยอน” จินอูถามเบาๆ แต่เด็กหนุ่มผมแสกกลางส่ายหน้าเหมือนยังเลือกไม่ได้
      “เอาอันนั้น ที่มีบราวนี่อ่ะ”

      เด็ก หนุ่มตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังชี้มือข้ามไหลแทฮยอนไปที่คัพเค้กชิ้นหนึ่งใน ตู้ก่อนจะเอามือพาดไหล่แทฮยอนเอาไว้ เด็กหนุ่มผมแสกกลางทำหน้านิ่วแต่ปล่อยเลยตามเลย

      “พี่ซึงฮุนเอาชิ้นนี้ พี่จินอูเอาชิ้นไหนดี”
      “พี่เอาอันสีชมพูก็แล้วกัน”
      “งั้นเอา 2 อันนี้ฮะ แล้วที่เหลือก็เอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้เอา 2 อันฮะ”

      นัมแทฮยอนชี้บอกและไปยืนรอพี่ซึงฮยอนคิดเงินให้ระหว่างที่ซึงยูนกำลังจัดคัพ เค้กใส่กล่อง ลูกค้าที่เข้ามาตอนนี้กำลังคุยกันเรื่องงานเลี้ยงที่จะจัดกันที่ห้องของคน ที่ชื่อจินอูในตอนเย็น เสียงกระดิ่งตรงหน้าประตูบอกให้รู้ว่ามีลูกค้าเดินเข้ามาใหม่

      “ซื้อเสร็จแล้วเหรอ ยังไม่ได้เลือกเลยอ่ะ”

      ลูกค้า ที่เข้ามาใหม่ยื่นหน้ามาดูเค้กในตู้และเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ซึงยูนเป็น รอยยิ้มสดใสและดูใจดี แม้ว่าเจ้าตัวจะดูผิวเข้มกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่ก็ดูเป็นมิตร

      “สั่งเพิ่มไม่ได้เหรอ”
      “พอแล้ว ซื้อไปตั้ง 6 ชิ้นแล้ว ให้พี่ 2 ชิ้นเลย” แทฮยอนตอบเสียงเรียบ
      “มินโฮกินไม่อิ่มหรอก 2 ชิ้นเนี่ย”

      ซึง ฮุนล้อขึ้นมาและดูเหมือนคนที่ชื่อมินโฮจะขำไปด้วย หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จแล้วลูกค้าที่เข้ามาคนสุดท้ายก็หันกลับมายิ้มให้ซึง ยูนอีกครั้ง เขาเลยต้องยิ้มให้คนที่ยิ้มสดใสคนนั้นอีกครั้ง

      “น่ารักดีเนอะ”
      “มีเพื่อนฉลองด้วยวันนี้ก็น่ารักดีนะฮะ”
      “ก็ คงงั้นแหละ เออ เมื่อกี๊พูดกันถึงไหนแล้วนะ” ชเวซึงฮยอนทำหน้าคิดอยู่นาน “อืม พี่จะบอกนายว่าอย่าจำอะไรไม่ดีเอาไว้เลยนะ ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ”
      “ฮะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะฮะ”

      ชเว ซึงฮยอนพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเปิดไฟหลังร้านให้ไฟสว่างขึ้น เพราะในฤดูหนาวฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ เด็กหนุ่มจัดขนมลงกล่องให้ลูกค้าเพิ่มอีก 3 ราย จนกระทั่งเกือบ 2 ทุ่มถึงจะเริ่มลงมือช่วยพี่ซึงฮยอนเก็บร้านเพราะขนมเหลืออยู่ไม่กี่ชิ้น พี่ซึงฮยอนเลยจัดการจัดขนมใส่กล่องให้ซึงฮยอน

      “เอาไปกินนะ แล้วก็นี่” ซึงฮยอนพูดยิ้มๆ พลางยื่นซองจดหมายให้เด็กหนุ่ม “สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ”
      “อะไรเหรอฮะ”

      ซึง ยูนทำตาโตตอนที่รับซองจดหมายมาจากเจ้าของร้าน เด็กหนุ่มเกือบจะใจไม่ดีแล้วถ้าไม่เห็นพี่ซึงฮยอนทำหน้ายิ้มๆ ตอนที่รอให้เปิดดู สุดท้ายซึงยูนเลยค่อยๆ เปิดซองดูและเห็นตั๋วรถไฟด่วนพิเศษอยู่ในซองนั้น ซึงยูนพึมพำขอบคุณเมื่อเจ้าของร้านตบบ่าเบาๆ และพูดอย่างเอ็นดู

      “กลับบ้านไปหาแม่ซะนะ พี่ให้ลางาน 3 วัน”
      “แต่ว่า ... พี่จะทำคนเดียวไหวเหรอ”
      “ไหวซี๊” ตาคมเป็นประกายระยิบระยับ “เดี๋ยวให้จียงมาอยู่เป็นเพื่อน”

      เด็ก หนุ่มหัวเราะเมื่อคิดว่าพี่จียงคงจะมาช่วยป่วนพี่ซึงฮยอนมากกว่าที่จะมาช่วย ขายของ แต่ดูเหมือนพี่เจ้าของร้านจะมีความสุขมากกว่ากังวลซึงยูนเลยยอมตามใจพี่เจ้า ของร้าน พี่ซึงฮยอนบ่นพี่จียงเรื่องไก่อบตอนที่กำลังขับรถและแวะส่งซึงยูนตรงสถานี รถไฟระหว่างทาง

      “ขอบคุณนะฮะพี่” ซึงยูนเอ่ยอย่างสดใสก่อนลงจากรถ “ผมจะซื้อของที่ปูซานมาฝากนะฮะ”
      “ไม่เป็นไรหรอก กลับดีๆ นะ” ซึงฮยอนยิ้มและพูดต่อ “รู้ไหม วันคริสมาสต์มักจะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นเสมอนะ”

      ซึง ยูนหัวเราะและโบกมือลารุ่นพี่และกดโทรศัพท์โทรออกตอนที่เดินลงสถานีรถไฟใต้ ดิน สัญญาณโทรศัพท์ทิ้งช่วงอยู่พักหนึ่งจนซึงยูนกังวลว่าคนปลายสายอาจจะหลับไป แล้ว

      “ฮัลโหล”
      “แม่” ซึงยูนทำเสียงสดใส “นอนหรือยังฮะ”
      “กำลังจะนอนจ้ะ ลูกกลับถึงห้องหรือยัง”
      “กำลังจะกลับฮะ พรุ่งนี้แม่ทำกับข้าวให้กินหน่อยสิฮะ ทำเยอะๆ เลยนะฮะ”
      “อะไรนะลูก”
      “พรุ่งนี้ผมจะกลับบ้านฮะ น่าจะถึงบ่ายๆ”
      “จริงเหรอ” เสียงปลายสีฟังดูสดใส “โอ พรุ่งนี้แม่จะไปตลาดแต่เช้าเลยนะ”
      “โอเคฮะ แม่ๆ แค่นี้ก่อนนะฮะ เดี๋ยวจะขึ้นรถไฟแล้ว”
      “ได้จ้ะ กลับดีๆ นะลูก”
      “ฮะ”

      ซึง ยูนกดวางสายก่อนจะเดินเข้าไปที่ชานชลาอย่างด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในใจ พรุ่งนี้จะได้เจอแม่ จะได้กินข้าวฝีมือแม่ จะมีอะไรดีไปกว่าได้นอนกลิ้งอยู่ที่บ้านกับแม่ก่อนที่จะกลับมาโซลอีกครั้ง ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตื่นเต้นกับวันคริสมาสต์ หรือจะอย่างที่พี่ซึงฮยอนบอกว่า วันนี้มักจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น


      อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็ได้เจอแม่แล้ว


      เด็ก หนุ่มคิดพลางก้าวเข้าไปในขบวนรถไฟใต้ดินก่อนที่มีผู้โดยสารบางตา ตาเรียวเห็นที่นั่งว่างอยู่เลยตัดสินใจจะเดินไปนั่งและต้องทำตาโตเมื่อเห็น คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่นั่งว่างนั้น เด็กหนุ่มชั่งใจว่าตัวเองควรจะเอ่ยทักลูกค้าที่ชื่อมินโฮที่มาซื้อคัพเค้ก วันนี้ดีหรือไม่ แต่ถ้าเอ่ยทักไปแล้วอีกฝ่ายจำไม่ได้ก็คงจะทำหน้าไม่ถูก

      “อ้าว! คุณคนขายคัพเค้ก” มินโฮยิ้มสดใสและโบกมือให้ “นั่งนี่สิฮะ”

      ซึง ยูนยิ้มรับและนั่งลงข้างๆ อีกมินโฮ อีกฝ่ายเป็นคุณลุงพนักงานบริษัทที่นั่งหลับสัปปะหงก เด็กหนุ่มกำลังคิดว่าจะชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องอะไรดี แต่มินโฮกลับเป็นฝ่ายชวนคุยเสียเอง

      “เลิกงานแล้วเหรอฮะ”
      “ฮะ เพิ่งเลิกงานล่ะฮะ”
      “ผมชื่อมินโฮฮะ” มินโฮพูดพลางยื่นมือไปให้อีกฝ่ายจับ “คุณละฮะ ชื่ออะไรฮะ”
      “ซึงยูนฮะ ยินดีที่ได้รู้จักฮะคุณมินโฮ”
      “งั้นเรียกมินโฮเฉยๆ ดีกว่า แล้วฉันเรียกนายว่าซึงยูนได้ไหม”
      “ได้ซิ เรียกกันคุณๆ นี่ก็แปลกๆ เนอะ”

      ซึง ยูนตอบเบาๆ และมินโฮเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยด้วยท่าทางสบายๆ เด็กหนุ่มพบว่าตัวเองชอบอะไรหลายๆ เหมือนกับอีกฝ่ายทั้งเรื่องสเก็ตบอร์ดและการ์ตูน สุดท้ายระยะทางเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงสถานีปลายทางที่ซึงยูนจะลงก็ผ่าน ไปอย่างรวดเร็ว

      “ฉันจะลงสถานีหน้านี่แหละ” ซึงยูนบอกเบาๆ “ไว้เจอกันใหม่นะ ถ้ามีโอกาส”
      “ได้เลย นี่ๆ ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้หน่อยสิ”

      เด็ก หนุ่มเผลอขมวดคิ้วตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น แต่พอคิดว่าเป็นเพื่อนใหม่กันการให้เบอร์โทรกันก็คงไม่มีอะไรแปลก ซึงยูนเลยรับมือถืออีกฝ่ายมากดเบอร์โทรให้ แต่จู่ๆ ก็คิดขึ้นมา


      แบบพี่จียงกับพี่ซึงฮยอนเขาก็บอกว่าเขาเป็นเพื่อนกันนะ


      “อันนี้เบอร์ฉัน ถ้าว่างๆ ค่อยนัดไปเล่นสเก็ตซ์กัน”
      “ได้เลย” มินโฮตอบพร้อมยิ้มกว้างสดใสแบบที่ชอบยิ้ม “อ้อ! Merry Christmas นะ”
      “อือ เหมือนกันนะ”
      “อื้ม เหมือนกัน”

      ซึงยูนอดยิ้มตามมินโฮไม่ได้ เพราะรอยยิ้มของอีกฝ่ายดูสดใสและจริงใจ เด็กหนุ่มบอกลาเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันก่อนจะเดินออกจากขบวนรถไฟที่จอด ตรงชานสถานีปลายทางของตัวเอง มินโฮยังนั่งต่อไปอีกหลายสถานี แต่ลุกขึ้นมายืนโบกมือให้ตรงประตูรถจนกระทั่งชบวนรถไฟเคลื่อนไปลับตา
      เสียงเพลงคริสมาสต์ดังคลอเบาๆ ทั่วทั้งสถานีและซึงยูนก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเด็กเล็ก 2 คนใส่ที่คาดผมเป็นเขากวางเรนเดียร์เดินมากับพ่อแม่ที่ถือถุงของจากห้างสรรพ สินค้ามาถุงใหญ่


      รู้ไหม วันคริสมาสต์มักจะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นเสมอนะ


      จู่ๆ คำพูดของพี่ซึงฮยอนก็กลับเข้ามาในความคิดอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มของเพื่อน ใหม่ที่เพิ่งแยกกัน ซึงยูนรีบส่ายหน้าไล่ความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็วแต่มือถือกลับมีข้อความ จากเบอร์แปลกๆ รูปคนที่ส่งข้อความมากับชื่อนั้นทำให้ซึงยูนรู้สึกหัวใจอุ่นๆ


      M!NO : ซึงยูน นี่ฉันเองนะ Merry Christmas อีกหนนะ ^^






      This is Christmas, and Christmas was meant for miracle. – Cody
      (Suite Life of Zack and Cody)
















      - END -



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×